ตอนที่ 12.... บรรลุอย่างฉับพลัน
นับแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณทรงเผยแผ่คำสอนอยู่ 45 พรรษา และถ่ายทอด "ประตูอนุตตรธรรม" แก่พระมหากัสสปะเพื่อรักษาสายธรรมะอันสูงสุดเอาไว้แต่เพียงท่านเดียวภายหลังที่พระพุทธองค์ทรงเข้าสู่ปรินิพพานแล้ว คำสั่งสอนได้เผยแผ่ออกไปทุกทิศานุทิศและแบ่งออกเป็นสองนิกายใหญ่ๆ โดยแผ่จากอินเดียทางเหนือเข้าสู่ประเทศจีนกลายเป็นมหายานและแตกออกเป็นนิกายต่างๆ อีกมากมาย ส่วนที่แผ่ลงมาทางใต้ของอินเดียนั้นล้วนเป็นภาษาบาลีและกลายมาเป็นหินยานซึ่งก็แบ่งออกเป็นหลายนิกายอีกเช่นกัน แต่ทั้งสองนิกายใหญ่นี้มีจุดศูนย์รวมอยู่ที่การนับถือพระพุทธองค์เป็นพระศาสดาเหมือนกันการสังคายนาคำสอนของพระพุทธองค์และจัดหมวดหมู่ให้เป็นระเบียบจนกลายมาเป็น พระไตรปิฎก แปลว่าคัมภีร์สามอย่างคือพระวินัยปิฎก ว่าด้วยศีลของพระภิกษุ ภิกษุณี พระสุตตันตปิฎก ว่าด้วยพระธรรมเทศนาทั่วๆ ไป พระอธิธัมมปิฎก ว่าด้วยธรรมะล้วนๆ หรือธรรมะอันยิ่ง
ในส่วนของพระวจนะของพระพุทธองค์ซึ่งกลายมาเป็นพระธรรมคำสอนนั้น มิใช่สภาวะแห่งการตรัสรู้แต่เป็นผลแห่งการที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสรู้ "อนุตตรธรรม" เท่านั้น คำสอนในพระไตรปิฎกจึงเป็นเพียงความรู้ มิใช่ปัญญาอันแท้จริงที่ทำให้ตัดกิเลสทั้งปวงได้ ตัวอย่างที่ชัดเจนมีอยู่สองเรื่อง คือ
พระโปฐิละ อันเป็นฉายาที่ได้มาจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญในคำสอนของพระพุทธองค์นำมาสั่งสอนผู้คนจนมีลูกศิษย์มากมาย แต่พระพุทธองค์ทรงเรียกว่า "คุณใบลานเปล่า" และในที่สุดต้องไปหาศิษย์ซึ่งเป็นเณรอายุ 7 ขวบ ผู้บรรลุธรรมแล้วเพื่อปฏิบัติให้บรรลุธรรมด้วย ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ พระอานนท์ พุทธอุปฐากซึ่งพระพุทธองค์ทรงยกย่องว่าเป็นผู้มีความจำดีเลิศ แต่ในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่พระอานนท์มิได้บรรลุธรรมใดๆ เลย
เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จเข้าสู่ปรินิพพานแล้วในเวลาสามเดือนได้เพียรพยายามปฏิบัติจนบรรลุได้ก่อนที่จะมีการประชุมสังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งแรก คำสอนของพระพุทธองค์ที่ตกทอดกันมาแต่โบราณกาลจึงเป็นเพียงความรู้
พระโปฐิละ อันเป็นฉายาที่ได้มาจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญในคำสอนของพระพุทธองค์นำมาสั่งสอนผู้คนจนมีลูกศิษย์มากมาย แต่พระพุทธองค์ทรงเรียกว่า "คุณใบลานเปล่า" และในที่สุดต้องไปหาศิษย์ซึ่งเป็นเณรอายุ 7 ขวบ ผู้บรรลุธรรมแล้วเพื่อปฏิบัติให้บรรลุธรรมด้วย ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ พระอานนท์ พุทธอุปฐากซึ่งพระพุทธองค์ทรงยกย่องว่าเป็นผู้มีความจำดีเลิศ แต่ในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่พระอานนท์มิได้บรรลุธรรมใดๆ เลย
เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จเข้าสู่ปรินิพพานแล้วในเวลาสามเดือนได้เพียรพยายามปฏิบัติจนบรรลุได้ก่อนที่จะมีการประชุมสังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งแรก คำสอนของพระพุทธองค์ที่ตกทอดกันมาแต่โบราณกาลจึงเป็นเพียงความรู้
ส่วนปัญญาตรัสรู้เป็นอีกสภาวะหนึ่งอันไม่สามารถบัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษรหรือวาจาใดๆ ได้เลย แต่มีการถ่ายทอดสสายแห่งการตรัสรู้เพื่อเป็นการสืบสายอนุตตรธรรมไว้แต่เพียงสายเดียว นับแต่พระมหากัสสปะได้รับถ่ายทอดจากพระพุทธองค์และสิ่งต่อๆ กันมาตามลำดับ นับได้จนถึงพระโพธิธรรมเป็นพระสังฆปริณายกองค์ที่ 28 พระโพธิธรรมได้เดินทางไปสู่ประเทศจีนจึงถือว่าเป็นองค์ที่หนึ่งของจีนและถ่ายทอดต่อไปจนถึงองค์ที่ 6 คือ ท่านฮุ่ยเหนิง
หลังจากที่ท่านเจ้าอาวาสแห่งวัดฝ่าซิ่งได้สดับอรรถาธิบายจากท่านฮุ่ยเหนิงแล้วจึงกล่าวว่า "คำอธิบายพระสูตรที่ข้าพเจ้าอธิบายไปแล้ว ไร้ค่าเปรียบได้เช่นกองขยะมูลฝอยเกะกะไปหมด ส่วนคำอธิบายของท่านมีคุณเปรียบประดุจดังทองคำอันบริสุทธิ์" หลังจากนั้นท่านอิ้นจงจึงจัดการอุปสมบทให้ท่านฮุ่ยเหนิงได้เป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาและขอร้องให้รับท่านเอาไว้เป็นศิษย์คนหนึ่งด้วย
ท่านฮุ่ยเหนิงได้กล่าวว่าเป็นเพราะบุญสัมพันธ์แต่อดีตชาติบรรดาสาธุชนทั้งปวงจึงได้สดับคำสอนแห่ง "สำนักบรรลุฉับพลัน" อันเป็นคำสอนที่ได้สืบทอดต่อๆ ลงมาจากพระสังฆปริณายกองค์ก่อนๆ มิใช่เป็นคำสอนที่ท่านคิดขึ้นเอง "ผู้ปรารถนาสดับพระธรรมชั้นแรกจึงควรชำระใจของตนให้บริสุทธิ์ ครั้นได้ฟังแล้วจึงควรชะล้างความสงสัยให้เกลี้ยงเกลาไปเฉพาะตนเยี่ยงเดียวกับพระอริยะทั้งหลายที่ได้กระทำมาในกาลก่อน" การบรรลุอย่างฉับพลันอันถือเป็นต้นกำเนิดแห่งพระพุทธศาสนานิกายเซ็น ซึ่งแพร่หลายจากเมืองจีนเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นนั้นกล่าวได้ว่า คำสอนของท่านฮุ่ยเหนิงล้วนมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางนัก เพราะเป็นคำสอนที่มุ่งเข้าสู่จิตเพียงสถานเดียวมีปริศนาธรรมให้ใช้ปัญญาขบคิดจนกว่า ปัญญาของตนสว่างขึ้นมาเอง ซึ่งถือว่าเป็นภาวะแห่งความรู้แจ้งชัดในธรรมญาณของตน ตัวอย่างของปริศนาธรรมหรือ โกอาน มีอยู่มากมายล้วนแต่ต้องใช้ปัญญาและเวลาในการขบคิดบางเรื่องใช้เวลา สิบปี ยี่สิบปี ก็ขบไม่แตก แต่บางคนเพียงแวบเดียวก็สว่างไสวในธรรมญาณของตนเป็นผู้รู้แจ้ง ทันทีบางอาจารย์ใช้วิธี "ตบและตี" จนปัญญาของศิษย์สว่างขึ้นมาก็มี
"อาจารย์ครับ ธรรมะคืออะไร" ลูกศิษย์อาจารย์เซ็นถาม อาจารย์เซ็นไม่ตอบตรงๆ แต่กลับใช้ฝ่ามือฟาดเปรี้ยงจนลูกศิษย์ล้มคว่ำลงไป แต่ลูกศิษย์ก็ยังคงงงๆ อยู่อาจารย์จึงหยิบไม้เท้าฟาดโครมซ้ำลงไปอีกที คราวนี้ลูกศิษย์ร้องโอยและรู้แจ้งในทันทีว่า "ธรรมะคืออะไร" ความเจ็บตัวทำให้เกิดความรู้และ "บรรลุอย่างฉับพลัน" เพราะเกิดความเข้าใจในทันทีว่า"อ๋อ ตัวที่ร้องโอ๊ยและเจ็บก็คือ ธรรมญาณ นั่นเอง"
"อาจารย์ครับ ธรรมะคืออะไร" ลูกศิษย์อาจารย์เซ็นถาม อาจารย์เซ็นไม่ตอบตรงๆ แต่กลับใช้ฝ่ามือฟาดเปรี้ยงจนลูกศิษย์ล้มคว่ำลงไป แต่ลูกศิษย์ก็ยังคงงงๆ อยู่อาจารย์จึงหยิบไม้เท้าฟาดโครมซ้ำลงไปอีกที คราวนี้ลูกศิษย์ร้องโอยและรู้แจ้งในทันทีว่า "ธรรมะคืออะไร" ความเจ็บตัวทำให้เกิดความรู้และ "บรรลุอย่างฉับพลัน" เพราะเกิดความเข้าใจในทันทีว่า"อ๋อ ตัวที่ร้องโอ๊ยและเจ็บก็คือ ธรรมญาณ นั่นเอง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น